OPPO พร้อมสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง
“เวลา” ช่างดูมีค่าเหลือเกินสำหรับผู้คนในยุค 2000s หากมีอะไรที่ช่วยอำนวยความสะดวกโดยใช้ระยะเวลาไม่มาก แน่นอนว่าย่อมถูกอกถูกใจหลายท่านอย่างมาก เพราะคงไม่มีใครอยากรอนาน ๆ หรือเสียเวลาให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเรื่องระบบชาร์จแบตเตอร์รี่อุปกรณ์หรือ Gadget ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน จุดนี้เองจึงได้มีหลายบริษัทไอทีได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาสู้กัน
ล่าสุดทาง OPPO ได้ทำการเปิดตัวระบบ Flash Charge รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งพร้อมมอบความเร็วในการชาร์จให้แบบที่ไม่เคยมีแบนไหนทำได้ให้ผู้ใช้ทุกท่านได้ลองสัมผัส โดยมีให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่
- 125W flash charge นี่คือเทคโนโลยี่ที่ทาง Oppo อยากจะผลิตออกมาเพื่อเอาชนะตลาดมือถือสมาร์ทโฟนทั้งหมด ด้วยความพิเศษในการชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh 5 นาทีได้กลับมาสูงถึง 41% แถมยังได้แบตเตอร์รี่เต็มที่เวลา 20 เท่านั้น ซึ่งถือว่าเร้วมากเมื่อเทียบกับการชาร์จธรรมดาซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 1 – 2 ชั่วโมงเลยเดียว
- Wireless 65W AirVOOC flash charge นอกจากได้ความสะดวกสบายจากระบบชารฺ์จไร้สายแล้ว ยังมาพร้อมกับความเร็ว Flash Charge ที่ทำให้สามารถชาร์จแบตความจุ 4000mAh เต็มได้ภายใน 30 นาที เสริมด้วยฟังก์ชั่นป้องกันการรบกวนของระบบไฟฟ้า ซึ่งมักเป็นปัญหาหลักของระบบชาร์จไร้สายนี้ให้น้อยลง ทำให้การชาร์จมีความเสถียรและระบายความร้อนได้อย่างเพียงพอ
- mini SuperVOOC charger 50W นี่คือเครื่องืขนาดเล็กที่สามารถพกพาไปได้สะดวก มีความหนาเพียง 1..05 เซนติเมตรเท่านั้น รองรับระบบจ่ายไฟทั้งแบบ 27W PD และ 50W PPS แถมยังนำเอาวงจร pulse charging มาเพิ่มความเร็วและความเสถียรในระหว่างชาร์จให้ไหลลื่น ถือว่าเป็นตัวแรกที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้ สามารถใช้ Flash Charge ชาร์จได้ทั้งมือถือ สมาร์ทโฟน แทปเล็ต หรือแลปท๊อปก็ยังได้
- mini flash charger 110W มาถึงน้องเล็กตัวสุดท้ายที่นำมาลดขนาดให้เหลือเพียง 35.76 ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่กลับ รองรับการชาร์จตั้งแต่ 18W – 110W ซึ่งครอบคลุมหลายอุปกรณ์เลยทีเดียว
สำหรับระบบ Flash Charge โฉมใหม่ของทาง Oppo ทั้งหมดนี้ สามารถนำมาชาร์จสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 30 รุ่น และ 2,900 รายการทั่วโลกเลยทีเดียว ฉะนั้นหากจะพูดว่าเขาพร้อมจะสู้กับแบรนด์อื่นก็ไม่แปลก ยิ่งหากอนาคตมีอุปกรณ์หรือมือถือที่สมาร์ทรองรับระบบ Flash Charge มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมานำในตลาดนี้ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับในบ้านเราอาจจะต้องรอการเปิดตัวสักเล็กน้อย ถึงจะรู้ว่าแต่ละรุ่นแต่ละตัวนั้นมีราคาอยู่ที่เท่าไร แต่ใครที่อยากประหยัดเวลาในการชาร์จแน่นอนว่าควรรอติดตามข่าวไอทีใหม่ ๆ ซึ่งจะนำมาอัพเดทให้ทราบก่อนใครแน่นอน